Wednesday 16 May 2012

คุรุสภา เตือน นศ.เร่งขอใบประกอบ ฯ สอบครูผู้ช่วย


คุรุสภา เตือน นศ.เร่งขอใบประกอบ ฯ สอบครูผู้ช่วย


         ทางด้านคุรุสภาเตือนเร่งขอตั๋วครู ก่อนสอบครูผู้ช่วยคาดยังมีไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นรายทั้งที่จบใหม่และจบไปก่อนหน้านี้ พร้อมเผยได้จัดทำโปรแกรม KSP BUNDIT ร่วมกับมหา'ลัยที่ผลิตครูกว่า 100 แห่งขาดอีกประมาณ 50 แห่ง ซึ่งจะช่วยให้ทราบจำนวนบัณฑิตที่เรียนและจบเพื่อขอตั๋วครูได้อย่างถูกต้องตรวจสอบได้
          นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กำหนดการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยประจำปี พ.ศ.2555 โดยกำหนดรับสมัครสอบแข่งขันวันที่ 8-14 มิ.ย. 2555 นั้น คุรุสภาขอให้บัณฑิตที่ยังไม่ได้ขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เร่งมาขอรับในอนุญาตฯ โดยทางคุรุสภาจะเร่งออกใบอนุญาตฯให้โดยเร็วเพื่อให้ทันกับกำหนดการรับสมัครสอบครูผู้ช่วยของสพฐ.เพราะหากมาขอกระชั้นชิดเกินไปอาจไม่ทันกับการรับสมัครทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้มาขอรับใบอนุญาตฯ ไม่ต่ำกว่า 10,000 คนซึ่งมีทั้งบัณฑิตจบใหม่ และผู้ที่จบไปแล้วแต่ยังไม่มาขอใบอนุญาตฯ
          "เชื่อว่าปีนี้จำนวนผู้ที่มาขอใบอนุญาตฯ จากคุรุสภาจะลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านๆ มา เพราะคุรุสภา ได้จัดทำโปรแกรม KSP BUNDIT ร่วมกับมหาวิทยาลัยที่ผลิตครูกว่า 100 แห่ง ทั่วประเทศ โดยทางมหาวิทยาลัยจะส่งข้อมูลจำนวนบัณฑิตที่รับเข้าเรียนต่อปี และจำนวนที่จบ มายังคุรุสภา เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูล และเมื่อบัณฑิตจบแล้วทางคุรุสภาจะจัดส่งใบอนุญาตฯไปให้ที่มหาวิทยาลัยทันที โดยที่นักศึกษาไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาขอด้วยตนเอง ทั้งนี้ยังมีมหาวิทยาลัยที่ยังไม่เข้าร่วมโปรแกรมดังกล่าวกับทางคุรุสภาอีกกว่า 50 แห่ง"
          เลขาธิการคุรุสภา กล่าวและว่า สำหรับความคืบหน้าการขอรับใบอนุญาตฯ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) นั้น ขณะนี้มีนักศึกษาที่สอบประมวลความรู้กับทาง มอส.ผ่านเรียบร้อยแล้ว จำนวน 137 คน มายื่นขอรับใบอนุญาตฯต่อคุรุสภา และคุรุสภาอนุมัติแล้วจำนวน 26 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งที่ผ่านมาทราบว่ามีนักศึกษาของมอส.ที่สอบประมวลความรู้กับทางมหาวิทยาลัยผ่านแล้วกว่า 700 คน จึงขอให้นักศึกษาที่ยังไม่มาขอใบอนุญาตฯ รีบมาขอเพื่อจะได้มีโอกาสสอบครูผู้ช่วยหรือนำไปใช้ในการประกอบวิชาชีพได้ถูกต้อง

ขอขอบคุณ : หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน

No comments: