Wednesday 9 May 2012

ม.เอกชนแข่งเดือด อัดงบประมาณชิงนักศึกษา เรียนนานาชาติฮอต


ม.เอกชนแข่งเดือด อัดงบประมาณชิงนักศึกษา เรียนนานาชาติฮอต




จับตาโค้งสุดท้าย ม.เอกชนชิงเค้กนักศึกษาหลังประกาศแอดมิสชั่น แข่งเพิ่มงบฯอัดโฆษณา แคมเปญชวนเชิญสมัครเรียนกระหึ่ม ทั้งเพิ่มงบฯโปรโมตผ่านทางสื่อ ตั้งทีมออนไลน์ ยึดพื้นที่นิวมีเดีย เจาะกลุ่มเป้าหมาย ชี้เด็กแห่สมัครหลักสูตรนานาชาติหวังเพิ่มโอกาสทำงานรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอีก 3 ปีข้างหน้า

การแข่งขันรับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีเข้มข้นขึ้นทุกปี เนื่องจากจำนวนที่นั่งเรียนมีมากกว่าจำนวนนักศึกษา รวมถึงการขยายหลักสูตรอย่างอิสระของมหาวิทยาลัยของรัฐ และการที่มหาวิทยาลัยรัฐเกือบทุกแห่งเปิดรับสมัครตรงเข้าศึกษาหลายสาขาวิชา ซึ่งมีนักศึกษาในระบบการรับตรงกว่า 30,000 คน ทั้งยังต้องแข่งขันกับมหาวิทยาลัยราชภัฏที่เปิดรับนักศึกษาจำนวนมาก

ความได้เปรียบด้านชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยรัฐทำให้เด็กและผู้ปกครองตัดสินใจเลือกสอบเข้าเรียนต่อจำนวนมาก ในขณะที่ ม.เอกชนใช้ข้อได้เปรียบด้านความคล่องตัวในการจัดหาอุปกรณ์การเรียนที่ทันสมัยและคณาจารย์มืออาชีพ รวมทั้งความน่าสนใจของหลักสูตรเป็นแรงดึงดูด จากจำนวนเด็กที่สมัครแอดมิสชั่นลดลงจากปีที่ผ่านมา ทำให้ประเมินได้ว่า มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่เลือกสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนโดยไม่รอประกาศผลแอดมิสชั่น

นางสาวอนันทินี เขียวขจี ผู้วางแผนกลยุทธ์และสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยว่า ปีนี้ทางมหาวิทยาลัยเพิ่มงบประมาณการตลาดมากกว่าปีที่ผ่านมา 10-20% โดยกระจายงบฯไปตามสื่อต่าง ๆ และเปิดตัวโฆษณาทางโทรทัศน์ก่อนมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เช่นเดียวกับทุกปี ตั้งแต่เดือนมกราคมเพื่อตอกย้ำแบรนด์ในการเป็นมหาวิทยาลัยสร้างสรรค์

"เรามีการสื่อสารและการส่งเสริมภายในมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างให้นักศึกษาทุกคนเป็นตัวแทน หรือแอมบาสซาเดอร์ของมหาวิทยาลัย พร้อมออกแคมเปญ Early Bird สมัครก่อนได้ก่อน จะได้เรียนฟรีในหลักสูตรระยะสั้นพิเศษที่มหาวิทยาลัยจัดไว้ให้ในมูลค่า 3 พันบาท เช่น หลักสูตรภาษา การวางแผนการลงทุน แอนิเมชั่น โดยนักศึกษาสามารถเลือกเรียนในหลักสูตรใดก็ได้"

ด้านนายเทพ สินธวานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานกิจการสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวในทำนองเดียวกันว่า ปีนี้ ม.ศรีปทุมใช้คอนเซ็ปต์ 4 years change ตอกย้ำจุดยืนในการเป็นมหาวิทยาลัยของคนรุ่นใหม่ที่สามารถเปลี่ยนตนเองให้เป็นคนแถวหน้าของทุกวงการ และเป็นที่ต้องการของนายจ้างใน 4 ปี หากเรียนที่ ม.ศรีปทุม โดยสื่อสารเมสเซจนี้ผ่านโฆษณาทีวี 4 ตอน สอดคล้องกับนโยบาย 4 ด้านที่มหาวิทยาลัยต้องการชูเป็นจุดขายคือ 1.เป็นมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรทันสมัย ตอบสนองกับเทรนด์อาชีพในอนาคต 2.เรียนรู้อย่างแตกต่าง นักศึกษาสามารถทบทวนบทเรียนที่ไหนก็ได้ ด้วยการเรียนในระบบอีเลิร์นนิ่งและโมบายเลิร์นนิ่ง 3.สร้างสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย และ 4.การสร้างเครือข่ายกับบริษัทต่าง ๆ เพื่อให้นักศึกษาเข้าไปฝึกงาน เตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีงานทำ พร้อมเพิ่มประสบการณ์ความรู้จากวิทยากรภายนอก โดยตั้งเป้านักศึกษาที่มาสมัครไว้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วราว 5-6 พันคน

ขณะที่อาจารย์มานา คุณธาราภรณ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า นักศึกษาใหม่ระดับปริญญาตรีและระดับปริญญาโทที่เข้าเรียนในปีการศึกษา 2555 จะได้รับนิวไอแพดทุกคนแล้ว ยังมีการประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยผ่านคลิปวิดีโอมินิซีรีส์ Love 18+ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เห็นได้จากจำนวนยอดคลิกและการแชร์ผ่านเฟซบุ๊ก ทั้งนี้ยังได้สื่อสารกับนักเรียนผ่านการจัดโรดโชว์ตามโรงเรียนต่าง ๆ

นอกจากกลยุทธ์สื่อสารการตลาดทุกช่องทางที่มหาวิทยาลัยเอกชนแทบทุกแห่งจะประชาสัมพันธ์ออกไป อาทิ โฆษณาทางโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ เปิดบ้านโอเพ่นเฮาส์ โรดโชว์ ในระยะเวลา 2-3 ปีหลังนี้ หลายมหาวิทยาลัยได้ให้ความสำคัญกับการใช้นิวมีเดียเป็นช่องทางการสื่อสารที่ใช้เจาะกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่นิยมสื่อสารผ่านโลกออนไลน์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มองเป็นเพียงช่องทางเสริมเท่านั้น

นายสมเกียรติ รุ่งเรืองวิริยะ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยใช้งบประมาณในการประชาสัมพันธ์ไม่ต่างจากปีก่อน ๆ แต่มีการปรับเปลี่ยนไปใช้ในสื่อนิวมีเดียมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นช่องทางเจาะกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด โดยในช่วงประกาศผลแอดมิสชั่น ม.รังสิตจะยิงพรีเซนเตชั่นของมหาวิทยาลัย 4 ตอน และซิทคอมอีก 4 ตอน เพื่อเล่าเรื่องราวของเด็กที่ล้มเหลวแต่สามารถประสบความสำเร็จได้ ทั้งหมดสื่อสารผ่านนิวมีเดีย โดยตั้งเป้ารับนักศึกษาปีนี้ 8-9 พันคน

ส่วนมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบค สถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในไทย ซึ่งมีคู่แข่งเพียงสถาบันการศึกษานานาชาติขนาดเล็กและมหาวิทยาลัยนานาชาติที่อยู่ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ แทบทุกปี ไม่ได้ทำการประชาสัมพันธ์มากนัก แต่จะมีการเปิดหลักสูตรใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดใจให้นักศึกษาสมัครเข้าเรียน

จากการสอบถามไปยังเอแบคได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปีนี้มีนักศึกษาเข้ามาสมัครเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเป็นผลมาจากอีกไม่กี่ปีจะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในอีก 3 ปีข้างหน้า ผู้ปกครองและนักเรียนตระหนักในเรื่องนี้ จึงเข้ามาสมัครเรียนในหลักสูตรนานาชาติเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
บทความจากประชาชาติธุรกิจ

No comments: