Wednesday, 16 May 2012

ADMISSIONS 56 โดนชี้ขาด!!!


ADMISSIONS 56  โดนชี้ขาด!!!



ทปอ.ถกกุมภาฯ ปรับ GAT-PAT ไม่เกิน50%
     นายพงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม ประธานคณะทำงานศึกษาระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ด้วยระบบกลางการรับนิสิต นักศึกษา หรือแอดมิสชั่นส์กลาง ของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะทำงานแอดมิสชั่นส์กลาง ของทปอ.ได้หารือเรื่องการปรับสัดส่วนองค์ประกอบแอดมิสชั่นส์กลาง ปีการศึกษา 2556 ของ 9 กลุ่มสาขาวิชา ซึ่งพบว่าแต่ละกลุ่มสาขาวิชา หรือแม้แต่กลุ่มสาขาวิชาเดียวกันยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่มาก บางสถาบันต้องการให้มีการปรับสัดส่วนองค์ประกอบ หรือบางสถาบันต้องการให้คงสัดส่วนองค์ประกอบเดิม จึงทำให้ไม่สามารถสรุปผลได้ว่า แต่ละกลุ่มสาขาจะปรับสัดส่วนองค์ประกอบใดบ้าง ดังนั้นที่ประชุมจึงขอให้แต่ละกลุ่มสาขาวิชาไปตกลงกันให้เรียบร้อยก่อน และที่สำคัญจะต้องให้สภาวิชาชีพของแต่ละกลุ่มสาขาวิชา ยืนยันด้วยว่าเห็นด้วยกับการปรับดังกล่าว เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาเวลานำผลคะแนนต่างๆไปใช้ 
     นายพงษ์อินทร์ กล่าวต่อไปว่า การปรับสัดส่วนสามารถทำได้เฉพาะการปรับคะแนนการทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และคะแนนการทดสอบความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ (PAT) แต่สัดส่วนการปรับเมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 50 % ขณะที่สัดส่วนองค์ประกอบอื่นยังคงเท่าเดิม คือคะแนนผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย (GPAX) 20% และคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) 30%  และจากการเสนอข้อมูลเบื้องต้น มีหลายกลุ่มสาขาวิชาที่ต้องการจะปรับสัดส่วน GAT-PAT เช่น กลุ่มสาขาวิชามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่จะปรับ GAT จาก 40% เป็น 30% PAT จาก 10% เป็น 20% กลุ่มสาขาวิชาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ใช้คะแนน PAT วิชาชีพครู อย่างเดียว 30% อาจจะขอปรับเพิ่มให้มี PAT อื่นที่เกี่ยวข้องกับสายวิชาชีพครู แต่ยังไม่ได้สรุปว่าจะเป็น PAT อะไรหรือสัดส่วนเท่าใด เป็นต้น
     "ทั้งนี้ทุกกลุ่มสาขาวิชาจะต้องสรุปผล และนำเข้าเสนอที่ประชุมแอดมิสชั่นส์กลางของ ทปอ.ในเดือน ม.ค.55 จากนั้นจะเสนอต่อ ทปอ.พิจารณาและตัดสินในเดือน ก.พ.55 นอกจากนี้ที่ประชุมยังหารือกันถึงการปรับสัดส่วนองค์ประกอบในการแอดมิสชั่นส์กลางในอนาคต คือ O-NET และ GPAX ที่เห็นตรงกันว่าถ้าจะปรับต้องเป็นปีการศึกษา 2558 เพราะเป็นการปรับใหญ่และต้องแจ้งให้นักเรียนไปรับทราบล่วงหน้า 3 ปี" นายพงษ์อินทร์ กล่าว
Credit   สยามรัฐ

No comments: